พระเยซูคริสต์ตรัส "ถ้าหากว่าผู้คนของโลกนี้จะฟังเราและสำนึกในความผิดบาปของพวกเขาแล้วละก็ เราก็จะทำให้งานของพวกต่อต้านพระคริสต์หยุดชะงักและเจ้าสัตว์ร้ายที่นั่นจะมาในช่วงเวลาแห่งการทำให้มีกำลังขึ้นมาเหมือนเดิม บรรดาผู้คนแห่งเมืองนีนะเวห์ (NINEVEH)ไม่ได้สำนึก ต่อคำเทศนาของโยนาห์ (JONAH) หรือ เราเป็นเช่นเดิมเหมือนเมื่อวาน เหมือนวันนี้ และเหมือนเดิมตลอดไปชั่วกาลนาน จงสำนึกและเราจะส่งกาลเวลาแห่งการอวยพรมาให้ "
ครั้นแล้วดิฉันได้ยิน พระเยซูคริสต์ตรัส "ผู้คนของเราควรจะรักซึ่งกันและกันและควรจะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน พวกเขาจะต้องเกลียดความผิดบาปและรักผู้กระทำความผิดบาป โดยความรักนี้ บรรดาผู้ชายทั้งปวงจะรู้ว่าเจ้าเป็นสาวกของเรา "
ในขณะที่พระเยซูคริสต์ตรัส โลกได้เปิดออก และเราได้กลับคืนไปในนรก
ดิฉันเห็นข้างๆภูเขาเต็มไปด้วยต้นไม้ที่ตาย และทั้งหมดที่อยู่รอบมันเป็นความสกปรกที่มีสีเทา ดิฉันยังได้เห็นกับดักขนาดเล็กทางด้านข้างของภูเขาอีกด้วย และร่างสีเทาของผู้คนกำลังเดินและกำลังพูดกัน
ดิฉันเดินตามพระเยซูคริสต์ไปตามทางคดเคี้ยวและสกปรกมากซึ่งนำไปสู่ด้านข้างของภูเขาสีเทา เมื่อเราเข้ามาใกล้ ดิฉันมองเห็นว่าผู้คนรวมกันทั้งหมด แต่ตายแล้ว พวกเขาประกอบไปด้วยเนื้อหนังสีเทาที่ตายแล้ว และพวกเขาถูกผูกเข้าด้วยเชือกมัด อันเป็นเส้นเชือกชนิดหนึ่งที่มีสีเทาซึ่งพันไปโดยรอบ ๆ ผู้คนทั้งหมดบนภูเขา ในขณะเดียวกันก็ไม่มีไฟให้เห็น ดิฉันรู้ว่านี่เป็นส่วนหนึ่งของนรก เพราะว่าเนื้อหนังที่ตายได้หล่นลงมาจากกระดูกของผู้คนที่นั่นและแล้วก็กลับมีเนื้อหนังขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ความตายอยู่ในที่ทุกหนทุกแห่ง แต่ว่าผู้คนมิได้ดูเหมือนว่าจะสังเกตุเห็น พวกเขาถูกครอบงำให้ผูกขาดการพูดเองอย่างใจจดใจจ่อ
พระเยซูคริสต์ตรัส "ขอให้เราฟังว่าพวกเขากำลังพูดอะไรกัน"
ชายคนหนึ่งพูดกับชายอีกคนหนึ่งว่า "คุณได้ยินเกี่ยวกับชายคนนี้ที่ชื่อพระเยซูที่ได้มารับเอาความผิดบาปไปไหม ?"
อีกคนหนึ่งตอบ " ผมรู้จักพระเยซู พระองค์ล้างความผิดบาปของผมให้หมดไป ที่แท้จริงแล้วผมไม่รู้ว่าผมกำลังทำอะไรอยู่ ณ ที่นี่ "
"ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน" ชายคนแรกพูด
ชายอีกคนหนึ่งพูด "ผมพยายามเป็นพยานต่อเพื่อนบ้านของผมเกี่ยวกับพระเยซู แต่ว่าเขาไม่แม้แต่จะฟังเสียด้วยซ้ำ เมื่อภรรยาของเขาเสียชีวิต เขามาหาผมเพื่อขอยืมเงิน สำหรับ การฝังศพของเธอ แต่ผมจำได้ว่าพระเยซูได้พูดว่าเราควรที่จะเป็นคนฉลาดเหมือนงู และไม่มีภัยเหมือนนกพิราบ ดังนั้น ผมจึงให้เขากลับไป ผมรู้ว่าเขาจะใช้เงินเพื่อบางสิ่งบางอย่างแทนเสียอีก เราจะต้องเป็นผู้จัดการที่ดีเกี่ยวกับเงินของเรา คุณก็รู้ "
ชายคนแรกที่พูดบัดนี้พูดอีก "ถูกแล้ว พี่ชาย " เขาพูด "เด็ก ชายคนหนึ่งที่โบสถ์ของเราต้องการเสื้อผ้าและรองเท้า แต่ว่าพ่อของเขาดื่ม (เหล้า ) ดังนั้น ผมจึงปฎิเสธทุกสิ่งสำหรับลูกชายของเขา เราสอนบทเรียนหนึ่งบทแก่ชายนั้นจริง ๆ "
"ดีละ" ชายอีกคนหนึ่งพูด ในขณะที่เขาถือเชือกผูกในมือของเขาและพันมันรอบตัวเขาอย่างกระสับกระส่าย "เราต้องสอนคนอื่นให้มีชีวิตอย่างพระเจ้าเสมอ ๆ ชายคนนั้นไม่มีสิทธิ์ที่จะดื่ม (เหล้า) ขอให้เขาได้รับความเจ็บปวดเถิด "
พระเยซูคริสต์ตรัส "โอ คนโง่ และคนที่มีหัวใจเชื่องช้า พึงรู้ความจริง (พึงสำนึกถึงความจริง และจงรักซึ่งกันและกันด้วยความรักที่เอื้ออารี จงช่วยคนที่มิได้รับการช่วยเหลือ จงให้แก่คนที่ต้องการโดยปราศจากการคิดถึงการได้รับสิ่งตอบแทนใด ๆ "
"ถ้าหากว่าเจ้าจะสำนึกในความผิดบาป โอ โลกเอ๋ย เราจะอวยพรให้เจ้าและไม่สาปแช่งเจ้า จงตื่นจากการหลับไหล และมาหาเรา จงอ่อนน้อมถ่อมตนและน้อมหัวใจของเจ้า ณ เบื้องหน้าเรา และเราจะมาและอยู่ร่วมกับเจ้า เจ้าจะเป็นประชากรของเรา และเราจะเป็นพระเจ้าของเจ้า"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น